หมอวรงค์ – ดร.อานนท์ ปราศรัยกลุ่มปกป้องสถาบัน ขอนแก่น

หมอวรงค์ – ดร.อานนท์ ปราศรัยกลุ่มปกป้องสถาบัน ขอนแก่น เมื่อ 27 มี.ค.64, 0850 – 0920 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเดอะอีสานเรคคอร์ด ที่โรงแรมโฆษะ ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น โดยกล่าวถึงการเดินทางมา จ.ขอนแก่น เพื่อเป็นวิทยากรเสวนาในหัวข้อ สถาบันพระมหากษัตริย์กับสังคมไทย จัดโดย กลุ่มคนขอนแก่นปกป้องสถาบัน วิทยากรที่ร่วมเสวนาประกอบด้วย ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ และ นายณฐพร โตประยูร

จัดที่โรงแรมโฆษะ วันที่ 27 มี.ค.64 เวลา 1300 – 1600 กล่าวถึงกลุ่มคนขอนแก่นปกป้องสถาบันฯ ได้ทำงานร่วมกับกลุ่มไทยภักดี และกลุ่มปกป้องสถาบันฯทั่วประเทศ ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี เราต้องยอมรับว่ามีกลุ่มบุคคลที่อาศัยกลุ่มนักศึกษาเป็นเครื่องมือ ใช้อาจารย์ของมหาวิทยาลัยในคราบนักวิชาการมาร่วมเคลื่อนไหว เวลามีการจาบจ้วงเจตนาต้องการทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเรื่องของคนไทยที่มีความผูกพันกับสถาบันฯมาอย่างยาวนาน

สถาบันพระมหากษัตริย์ ของไทยไม่เหมือนสถาบันพระมหากษัตริย์ของฝรั่งเศสสมัยพระเจ้าหลุยส์ ที่นักวิชาการบางคนชอบเอามาเล่ามาพูด ที่มีการกดขี่ข่มเหงประชาชน สถาบันฯของเรามิได้กดขี่ข่มเหงประชาชน อยู่กับสังคมไทยเหมือนพ่อปกครองลูก เยี่ยมเยียน ดูแลทุกข์สุขให้การช่วยเหลือ ให้การเอาใจใส่ดูแล ดังนั้นเมื่อมีกลุ่มบุคคลที่ใช้นักศึกษา ใช้คนรุ่นใหม่มาจ้องทำลายล้าง

เป็นธรรมดาที่ประชาชนจะรวมตัวกันออกมาปกป้อง ถือว่าภาพลักษณ์ขอนแก่นโมเดลเป็นภาพลักษณ์ที่ดีอันหนึ่งที่แสดงออกถึงความจงรักภักดี เป็นสิ่งที่ดี สัญญาณที่ดี ที่พวกไทยภักดี อาจารย์หรือนักวิชาการท่านอื่นมีแนวคิดสอดคล้องกับคนขอนแก่น การจัดกิจกรรมทางการเมืองในมหาวิทยาลัย

ยกตัวอย่างการเชิญนายปิยบุตร แสงกนกกุล มาบรรยาย ถือว่าล้มเหลวที่จะชี้นำนักศึกษา ระดับนี้มาคนต้องล้น แต่มีนักศึกษาประมาณ 40 คน ไม่เยอะมาก สถาบันการศึกษาที่เป็นแหล่งบ่มเพาะบุคลากรของประเทศ ถ้ามีอำนาจจะบอกทิศทางของประเทศว่าไปทิศไหน เราไปในทิศที่มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราให้สิทธิทางวิชาการเต็มที่ แต่ไม่ให้เสรีภาพในการมาทำลายล้างในการให้ข้อมูลบิดเบือน

การจัดการเสวนาตามมหาวิทยาลัยไม่ใช้เสรีภาพทางวิชาการด้วยบริสุทธิ์ใจ แต่เป็นเสรีภาพที่เอามาอ้าง แต่เป้าหมายในการบิดเบือนข้อเท็จจริง ทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งทิศนี้ยอมไม่ได้  เสียเวลาประเทศ เอาเวลามาพัฒนาประเทศ ตามระบอบการปกครอง เราสามารถวิจารณ์ได้ ใช้เหตุผลได้ แต่คุณมาถือป้ายด่าให้ร้ายไม่ได้ ไม่ใช่เสรีภาพแต่คือการด่า ขนาดผมวิจารณ์พรรคการเมืองบางพรรคด้วยเหตุผล ยังถูกฟ้องเลย ที่อย่างนี้มาฟ้องผม แต่คุณไปด่าเจ้า ไม่สมเหตุสมผล

ล่าสุดขึ้นเวทีปราศรัยบิดเบือนประชาชนต้องถูกดำเนินคดี ต้องแยกให้ออกระหว่างเสรีภาพทางวิชาการ กับการจงใจที่จะด่า หรือจงใจบิดเบือนที่สำคัญที่สุดถ้าคุณใช้สิทธิเสรีภาพท่าทีต้องเป็นวิชาการ ท่าทีต้องมีเหตุมีผล ท่าทีที่หลายฝ่ายแสดงออกเป็นท่าทีที่เป็นอคติ ศัตรู และคำหยาบ ยกตัวอย่างถ้ามีใครไปพ่นสี ค. ว. ย. ที่ สนง.เดอะอีสานเรคคอร์ด ก็คงไม่พอใจ นี่หรือเสรีภาพทางวิชาการ

กรณีพรรคไทยภักดี มีแนวทางที่ชัดเจน เป็นพรรคอนุรักษ์นิยมที่ทันสมัย นำพาประเทศไทยได้  อุดมการณ์ของพรรคไทยภักดี 5 ข้อ คือ 1) ปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกป้องระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  ต่อต้านระบบสาธารณรัฐ 2) สืบสานความเป็นไทย 3) ต่อต้านการผูกขาดทุนผูกขาด 4) เทคโนโลยีที่ทันสมัย 5) เราไม่ปฏิเสธทุนต่างชาติ ไม่ปฏิเสธทุนใหญ่ แต่เราต้องพัฒนาประเทศบนหลักพึ่งพาตัวเองให้ได้

ส่วนตัวตนของพรรคไทยภักดี คือ 1) นำการเปลี่ยนแปลง 2) โปร่งใสตรวจสอบได้ 3) สร้างคนใหม่ 4) ไว้ใจได้ 5) ไทยภักดี ภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน เราพร้อมส่งผู้สมัคร ส.ส. ต่อสู้ในสภา ตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่คิดว่าจะเป็นพรรคเล็ก จะเป็นผู้นำในการพัฒนาประเทศพัฒนา เราเชื่อว่าเราจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล

ปัญหาทุกอย่างเกิดจากนักการเมือง ทะเลาะกัน โกงบ้านโกงเมือง รัฐบาลไม่ทันการ เป็นภาระของประชาชนที่ต้องมาช่วยดูแล ทุกพรรคร่วมมือกันได้ แต่ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกัน การมีพรรคเล็ก 2-3 เสียง เป็นเพียงบทเฉพาะกาล การเลือกตั้งคราวหน้าพรรคเล็กจะหายหมด ต้องมีการตั้งสาขาพรรค 4 ภาค การสมัครสมาชิกพรรค การรับสมัคร ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ การเคลื่อนไหวของพรรค ต้องดูที่กฎหมาย ถ้าถูกต้องตามกฎหมายก็จะเป็นแนวร่วมกันได้  ขอบเขตการพูดถึงสถาบันฯ อยู่ที่ความคิดสามัญสำนึกของบุคคล อะไรที่พูดและทำให้บุคคลอื่นเสียหาย ไม่ควรพูด

ยกตัวอย่าง มายด์ที่อ่านโพยจาบจ้วงสถาบันฯ การฟ้องผู้หมิ่นสถาบันฯ ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย สมเพชทูต 14 ประเทศที่มาวุ่นวายในประเทศไทย กล่าวถึงเดอะอีสานเรคคอร์ด เป็นเครื่องมือทางการเมือง ทำงานให้ต่างชาติ  ทำให้คนไทยแตกแยกกัน เดอะอีสานเรคคอร์ดทำงานให้ ซีไอเอไปแล้ว โดย นายเดวิด สเตร็คฟัส รับเงินจาก NED ประมาณ 45,000 เหรียญ เป็นเครื่องมือ/ทำงาน

ซีไอเอ ผมรู้จัก นายเดวิด สเตร็คฟัส ที่ชอบพูด 112 มายุ่งเกี่ยวกับอะไรกับเมืองไทย เชื่อมโยงกับมหาวิทยาลัย ม็อบเป็นเครื่องมือทางการเมือง เชื่อหรือไม่ว่าพูดเองหรือใครเขียนให้ ไอลอร์ก็รับเงินจาก NED การเปลี่ยนแปลงประเทศต้องรื้อระบบการศึกษา การกระจายอำนาจ รื้อตำรวจ โดยการเปลี่ยนแปลงต้องมีสถาบันพระมหากษัตริย์ และได้นักการเมืองดี  การเรียกร้องปฏิรูปสถาบันฯ เป็นการตั้งเป้าผิด ไม่เกี่ยวกับสถาบันฯ ต้องปรับปรุงที่การเมืองเอง มีความพยายามล้มสถาบันฯ โดยต่างชาติสนับสนุน

อ่านต่อ